- ไม่ปล่อยชีวิตไปกับข่าวPosted 15 hours ago
- กฎแห่งกรรมไม่หมดอายุPosted 4 days ago
- อย่าหัวชนฝาPosted 5 days ago
- เปลี่ยนเป็นตลาดการค้าไวๆPosted 6 days ago
- มนุษย์เกิดมิคสัญญีที่ใจPosted 7 days ago
- ระวังเพื่อความปลอดภัยPosted 1 week ago
- ขอให้ฮึดสู้Posted 2 weeks ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 2 weeks ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 2 weeks ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 2 weeks ago
หมายเหตุรอมฎอน(3)
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 29 เม.ย. 65)
ถ้าเดือนธันวาคมของทุกปีเป็นเดือนแห่งการโปรโมชั่นของห้างสรรพสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างความสุขให้แก่ลูกค้าในเทศกาลคริสต์มาสและการเฉลิมฉลองปีใหม่ของคนทั่วไป เดือนรอมฎอนก็เป็นเดือนแห่งการโปรโมชั่นลดบาปเพิ่มบุญสำหรับชาวมุสลิมทั่วโลก
สิบวันแรกของเดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาแห่งความเมตตาจากพระเจ้า สิบวันที่สองเป็นช่วงเวลาของการให้อภัยโทษและสิบวันสุดท้ายเป็นช่วงเวลาของการคุ้มครองให้พ้นจากไฟนรก
ในเดือนรอมฎอน การทำดีจะได้รับรางวัลหรือผลบุญตอบแทน 10 – 700 เท่าหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพระเจ้าโดยตรง
จึงไม่ต้องแปลกใจที่ใครๆจะเห็นมุสลิมต่างกระตือรือร้นทำความดีเพื่อกอบโกยผลบุญทุกวันในช่วงเดือนรอมฎอนด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การอ่านคัมภีร์กุรอาน การบริจาคทาน การเลี้ยงอาหารผู้ถือศีลอดซึ่งผู้เลี้ยงจะได้รับผลบุญเหมือนคนที่ตัวเองเลี้ยงอาหารด้วย การละหมาดพิเศษในยามค่ำคืน เป็นต้น
ยิ่งก่อนที่เดือนรอมฎอนจะจากไป คัมภีร์กุรอานกล่าวว่าในช่วงสิบคืนสุดท้ายของเดือนนี้จะมีคืนหนึ่งที่ดีกว่าพันเดือน แต่คืนนั้นเป็นคืนไหนไม่มีใครรู้ ถ้าใครอยากได้ผลบุญตอบแทนความดีอย่างมากมายมหาศาลก็ต้องทำความดีทุกคืน ช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนจึงเป็นช่วงเวลาที่มุสลิมกระตือรือร้นทำความดีกันเป็นพิเศษเพื่อหวังผลบุญตอบแทนอันมหาศาลจากพระเจ้า
มีคำสอนของนบีมุฮัมมัดกล่าวว่าในเดือนรอมฎอน ประตูสวรรค์จะถูกเปิด ประตูนรกจะถูกปิดและซาตานจะถูกล่ามโซ่
นั่นหมายความว่าซาตานไม่อาจยั่วยุผู้ถือศีลอดให้ทำบาปได้ ประตูนรกจึงถูกปิด และประตูสวรรค์เปิดรอเขาอยู่
ในสหรัฐอเมริกาเคยมีการทดลองทางสังคมจิตวิทยาเพื่อพิสูจน์ว่ามุสลิมให้ความสำคัญต่อการถือศีลอดมากเพียงใดโดยผู้ทดลองเสนอที่จะให้โทรศัพท์ไอโฟนรุ่นล่าสุดแก่มุสลิมที่เดินบนท้องถนนหากมุสลิมคนนั้นจิบน้ำที่ถูกเสนอให้เป็นการแลกเปลี่ยน
แต่ผลการทดลองทุกครั้งปรากฏว่าข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธและสิ่งที่ผู้ทดลองได้ยินจากผู้ถูกทดลองก็คือ “ผม/ฉันถือศีลอด” คำตอบเช่นนั้นเป็นเพราะมุสลิมรู้ดีแก่ใจว่าการละเว้นจากการถือศีลอดโดยเจตนาถือเป็นบาปใหญ่
อีกตัวอย่างหนึ่งของการให้ความสำคัญแก่การถือศีลอดก็คือนักฟุตบอลมุสลิมในทีมสำคัญของพรีเมียร์ลีกก็ยังถือศีลอดแม้ในขณะเล่นฟุตบอล
มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าการอดข้าวอดน้ำไม่ได้เป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหรือทำกิจกรรมต่างๆ
นอกจากการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน มุสลิมบางคนยังถือเอาเดือนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำอะไรบางอย่างนอกเหนือไปจากการถือศีลอด เช่น บางคนตั้งใจใช้เดือนรอมฎอนเป็นจุดเริ่มต้นอดบุหรี่ บางคนสัญญากับตัวเองว่าจะท่องจำคัมภีร์กุรอานให้ได้มากขึ้น บางคนตั้งปณิธานว่าจะอ่านคัมภีร์กุรอานให้จบทั้งเล่ม บางคนตั้งปณิธานว่าจะบริจาคทานทุกวันหรือหาทางช่วยเหลือคนทุกข์ยากเดือดร้อน เป็นต้น
เดือนรอมฎอนจึงเป็นเหมือนแขกของพระเจ้าที่มาเยือนมุสลิมผู้ศรัทธาปีละครั้ง มุสลิมจึงต้อนรับด้วยการให้เกียรติอย่างเต็มที่ เมื่อเดือนรอมฎอนจากไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะได้พบเดือนรอมฎอนอีกหรือไม่ในปีหน้า ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนอยากได้สำหรับชีวิตหลังความตายคือความเมตตา การให้อภัยโทษและการคุ้มครองจากพระเจ้าให้พ้นจากไฟนรก
You must be logged in to post a comment Login